วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

>> หน่วง

จึงเป็นความรักที่ไม่ถึงกับสุข
เป็นความทุกข์ที่ไม่ถึงกับเศร้า
เป็นความรักที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วย
จึงเป็นความรักที่มาพร้อมความอึดอัด
และเป็นความรักที่ไม่เคยเห็นภาพชัดๆสักวัน
มีแค่ความรู้สึกครึ่งๆกลางๆ
ข้างในใจของฉันเพียงผู้เดียว อึดอัดในใจของตัวฉันเพียงผู้เดียว  แค่ผู้เดียว..

                                                                                                                        >> หน่วง Room 39

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

"มหา'ลัยที่ไม่มีวันจบ"

    มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มักจะเข้าใจผิดคิดกันไปเองว่าคนที่มีการศึกษาสูงๆ เรียนเก่งๆ ยิ่งได้เกียรนิยมติดอันดับกับเขาด้วยยิ่งดี เป็นเครื่องการันตรีในระดับหนึ่งว่า  "ชีวิตเขาจะรุ่งโรจน์ในอนาคต"

    แต่กับชีวิตจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ พวกเราทุกคนต่างก็รู้ดีเมื่อต้องออกมาเผชิญโลกกว้างโลกแห่งชีวิตจริงที่ไม่มีการสอบเก็บคะแนนรายวิชา ไม่มีกรสอบปลายภาคเรียนเผื่อให้ผ่านวิชาที่เรียนชีวิตนอกห้องเรียนมีอะไรมากมายกว่านั้น และทุกอย่างเราเรียกรวมกันว่า "ประสบการณ์"

    การเรียนรู้จากทฤษฎีนั้น เราต้องประยุกต์ก่อนที่จะนำไปใช้เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน แต่กับประสบการณ์ในชีวิตจริง เราไม่จำเป็นต้องประยุกต์แต่อย่างใด เราสามารถนำไปใช้ได้เลยในทันทีที่ต้องการ

   ไม่ว่าเราจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เมื่อเราเคยเดินผ่านมันมาได้แล้วครั้งหนึ่งเราก็จะไม่ต้องเสียเวลาไปเรียนรู้มันอีก และสามารถหยิบมาใช้ได้ทันที

   ประสบการณ์ที่ดีมันเป็นกำลังใจให้เราได้สู้ต่อไป ประสบการณ์ที่เลวร้ายถึงมันจะเป็นเปลวเพลิงที่อาจจะเผาไหม้เราให้ละลายไปได้ แต่มันก็เป็นเบ้าหลอมชั้นดี ที่จะทำให้เรามีความมานะอดทนต่อความยากลำบากในอนาคตได้เช่นกัน

   แม้ชีวิตนอกมหาวิทยาลัยไม่มีประกาศนียบัตรไม่มีการทดสอบเก็บคะแนนเพื่อวัดภูมิความรู้ด้วยทฤษฎีไม่มีอาจารย์สอนรายวิชา ไม่มีการลงทะเบียนหรือรีไทน์ ไม่มีวันปืดและวันเปิดเทอมใหม่

   ทุกหลักสูตรไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีถูกหรือผิด ไม่มีทฤษฎีมารองรับอย่างแท้จริงจึงไม่ใช่เรื่องแปลกทีี่ไม่มีใครจบการศึกษาในหลักสูตรแม้แต่คนเดียว

 ดังนั้น "เราควรเป็นนักศึกษาที่ดี ยอมรับที่จะถือเอาทุกอย่างเป็นครูสอนชีวิต แม้เราจะไม่ได้เกียรตินิยม แต่ก็น่ายกย่องอย่างแท้จริง"

                                                                                                           "ล้มบ้าง เจ็บบ้าง ช่างหัวมัน ....ฤทธิรงค์"

วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

"ล้มได้ แต่ต้องลุก"

ขาของเราจะเข้มแข็งขึ้นเสมอ

ทุกครั้งที่ผ่านเรื่องร้ายๆไปได้

หัวใจของเราจะแข็งแกร่งขึ้นเสมอ

ทุกครั้งที่ลุกขึ้นใหม่และไม่ยอมแพ้

ชัยชนะนั้นมักเป็นของคนที่กล้ายอมรับว่าตัวเองแพ้

และไม่ยอมแพ้ กล้าลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง

                                            ......จากหนังสือ "ล้มได้แต่ต้องลุก"